All I Really Need To Know I Learned In Kindergarten
ไม่รู้มีใครเคยผ่านๆ หนังสือเล่มนี้บ้างหรือเปล่า?
หนังสือเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่มองย้อนไปสู่วัยเด็กว่า เอ... จริงๆ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ที่ห่วยๆ นี่ ที่จริงคุณครูอนุบาลก็สอนกันมาแล้วนี่นา (ทำไมมันยังห่วยๆ อยู่ได้น้าาา)
ตอนเด็กๆ เราถูกสอนให้รู้จักนี่... พวกนี้เลย:
- แบ่งปันกัน
(Share everything.) - เล่นกันอย่างแฟร์ๆ ไม่เอาเปรียบคนอื่นเขา
(Play fair.) - อย่าทุบตีคนอื่นเขา
(Don't hit people.) - เวลาใช้อะไรแล้ว รู้จักเก็บเข้าที่เดิมด้วย
(Put things back where you found them.) - เวลาทำไรสกปรกแล้ว... ติดตามผลงานด้วยจ้าาา
(Clean up your own mess.) - ไม่ไปอุบอิ๊บของคนอื่นมาเป็นของตัว
(Don't take things that aren't yours.) - พูดคำว่า ขอโทษ เวลาทำให้คนอื่น "เจ็บ"
(Say you're sorry when you hurt somebody.) - ล้างมือก่อนกินข้าว
(Wash your hands before you eat.) - เวลาเข้าส้วมแล้ว กดน้ำด้วย
(Flush.) - ใช้ชีวิตให้ลงตัวในแต่ละวัน เรียนบ้าง คิดบ้าง วาดรูปบ้าง ระบายสีบ้าง ร้องเพลงบ้าง เต้นบ้าง เล่นบ้าง และทำงานบ้าง
(Live a balanced life - learn some and think some and draw and paint and sing and dance and play and work every day some.) - งีบตอนบ่าย
(Take a nap every afternoon.) - เวลาออกไปข้างนอก ระวังรถ จับมือกัน และอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม
(When you go out into the world, watch out for traffic, hold hands, and stick together.) - ยอมรับความมหัศจรรย์
(Be aware of wonder.) เหมือนกับเราเพาะเมล็ดแล้ว ทำไมต้นมันถึงชี้ขึ้นฟ้า แล้วก็รากทิ่มลงดิน ซึ่งก็ไม่มีใครให้คำตอบกับสิ่งเหล่านี้ได้ - ปลาทอง หนู (สัตว์เลี้ยง) ตายได้ เช่นเดียวกับเรา
(Goldfish and hamsters and white mice and even the little seed in the Styrofoam cup - they all die. So do we.) - คำแรกที่เราเรียนรู้ และเป็นคำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือคำว่า "ดู"
(And then remember the Dick-and-Jane books and the first word you learned - the biggest word of all - LOOK.)
อ่อ...ข้อสุดท้ายที่เขาพูดถึงหนังสือ Dick and Janeนี่ อันนี้เป็น series ของตำราสำหรับเด็กที่ใช้สอนเด็กอเมริกันตั้งแต่ปี 1930s - 1970s ประมาณ มานี มานะ ปิติ ชูใจของเรา แต่เขาใช้สอนเด็กตั้งแต่ Grade 1-8
เอ... หนังสือมานี มานะ ปิติ ชูใจ นี่มันมีผลกับการเลือกเรียนคณะ หรือทำอาชีพมั้ยน้อ เห็นเดี๋ยวนี้เวลาเขาจะเรียนคณะอะไร จะทำงานอะไรให้นึกถึง มานี (Money) ซะเยอะ มานะ ปิติ ชูใจ ไม่ค่อยเหลือแระ
อ้าว... ชวนคุยเรื่องสิ่งที่ฉันต้องรู้ ฉันเรียนตอนอยู่อนุบาลดีๆ ไหงมาลง มานี ไม่มีมานะ ไม่ค่อยปิติ ไม่มีอะไรชูใจได้น้อ...
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
คลังบทความ
-
►
2010
(1)
- ► กุมภาพันธ์ (1)
-
▼
2009
(13)
-
▼
พฤศจิกายน
(11)
- ข้อเสนอในการเปิดพิ้นที่รายการโทรทัศน์สร้างสรรค์เพื...
- ใครเป็นใครในภาคีทีวีเด็กปฐมวัย
- สถานัทีวีของเด็กกับนานาเหตุผล...
- All I Really Need To Know I Learned In Kindergarten
- ภาพเก็บตกงานสัมมนารายการเด็กดีดีมีที่ไหน
- รวบรวมบทความเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กที่เค...
- ภาพบรรยากาศงานมหกรรมสื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยา...
- ตามหาสถานีทีวีเพื่อเด็ก
- สาส์นจาก คันชีวู
- ฟรี! อบรมบ่มเพาะคนทำนิทานทีวี รุ่นเห็ดเข็มทอง
- เชิญร่วมสัมมนา "รายการทีวีเด็กดีดี.. มีที่ไหน?"
-
▼
พฤศจิกายน
(11)
Kid TV Network คือใคร?
เราคือ "ภาคีทีวีเด็กปฐมวัย"
การรวมพลคนปรารถนาดีที่จะทำรายการทีวีเพื่อเด็กปฐมวัย
การรวมพลคนปรารถนาดีที่จะทำรายการทีวีเพื่อเด็กปฐมวัย
ความเป็นมา
ณ สตูดิโอเห็ดหรรษา ซึ่งครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นสถานที่ผลิตรายการ และที่ชุมนุมของสมาชิก “สโมสรผึ้งน้อย” การเด็กชื่อดังของเมืองไทยเกือบ 30 ปีก่อน วันนี้ สตูดิโอแห่งนี้กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ในฐานะผู้บ่มเพาะและฟูมฟักกลุ่มผู้มีไฟฝันผลิตรายการสำหรับเด็กปฐมวัย ภายใต้ชื่อ “ภาคีทีวีเด็ก”
โครงการอบรม “บทเพลงสถานีสร้างสรรค์รายการเพื่อเด็ก”ณ สตูดิโอเห็ดหรรษา มีคุณภัทรจารีย์ อัยศิริ หรือ “น้านิต แห่งสโมสรผึ้งน้อย” เจ้าของสถาบันเพื่อการเรียนรู้เห็ดหรรษา เป็นผู้ดำเนินการอบรม โดยได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจาก สสส. ระหว่างเดือนมีนาคม - มิถุนายน ๒๕๕๒
แม้ โครงการอบรมสิ้นสุดลง แต่ความสัมพันธ์ของกลุ่มต่างๆ ยังคงต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดไอเดียของกลุ่มผู้เข้าอบรมขึ้นเป็นรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก มี “น้านิต” เป็นแกนนำ และสตูดิโอเห็ดหรรษาเป็นศูนย์กลางการพบปะสังสรรค์
ภาคีทีวีเด็ก กับวิสัยทัศน์ & พันธกิจ : สร้างสรรค์ “สถานีทีวีเด็ก” ... เติมส่วนที่ขาดหายให้สังคมไทย
โครงการอบรม “บทเพลงสถานีสร้างสรรค์รายการเพื่อเด็ก”ณ สตูดิโอเห็ดหรรษา มีคุณภัทรจารีย์ อัยศิริ หรือ “น้านิต แห่งสโมสรผึ้งน้อย” เจ้าของสถาบันเพื่อการเรียนรู้เห็ดหรรษา เป็นผู้ดำเนินการอบรม โดยได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจาก สสส. ระหว่างเดือนมีนาคม - มิถุนายน ๒๕๕๒
แม้ โครงการอบรมสิ้นสุดลง แต่ความสัมพันธ์ของกลุ่มต่างๆ ยังคงต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดไอเดียของกลุ่มผู้เข้าอบรมขึ้นเป็นรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก มี “น้านิต” เป็นแกนนำ และสตูดิโอเห็ดหรรษาเป็นศูนย์กลางการพบปะสังสรรค์
ภาคีทีวีเด็ก กับวิสัยทัศน์ & พันธกิจ : สร้างสรรค์ “สถานีทีวีเด็ก” ... เติมส่วนที่ขาดหายให้สังคมไทย
วิสัยทัศน์ - Vision
เด็ก ไทยช่วงปฐมวัย และประถมต้น (อายุ 3-8 ปี) ได้ดูรายการโทรทัศน์คุณภาพซึ่งผลิตขึ้นสำหรับเด็ก ปราศจากสารปนเปื้อน ไร้มลพิษทางอารมณ์และจิตใจ ช่วยให้เด็กไทยมีพัฒนาการด้าน IQ, EQ, MQ, PQ ที่เหมาะสมกับวัย มีส่วนร่วมสร้างเด็กไทยให้เติบโตเป็นเยาวชนและผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในโลกโลกา ภิวัฒน์ โดยคงรากเหง้าความเป็นไทยไว้ได้อย่างเหมาะสม
พันธกิจ - Missions
1. ผู้สร้างสรรค์ “สถานีทีวีเด็ก”
2. อบรมและพัฒนาผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ที่สามารถผลิตรายการคุณภาพสำหรับเด็ก
3. รวบรวมสาขาวิชาชีพและวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก
4. ให้เด็กไทยมีโอกาสได้ชมรายการโทรทัศน์คุณภาพสำหรับเด็กอย่างเท่าเทียมกัน
2. อบรมและพัฒนาผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ที่สามารถผลิตรายการคุณภาพสำหรับเด็ก
3. รวบรวมสาขาวิชาชีพและวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก
4. ให้เด็กไทยมีโอกาสได้ชมรายการโทรทัศน์คุณภาพสำหรับเด็กอย่างเท่าเทียมกัน
สถานีทีวีเด็ก = ?
สถานีทีวีเด็ก เป็นทั้งสัญลักษณ์และโอกาสให้เด็กไทยได้ชมรายโทรทัศน์คุณภาพสำหรับเด็กอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าเด็กที่อยู่ในเขตเมือง หรือเด็กในพื้นที่ชนบท เด็กซึ่งผู้ปกครองมีฐานะดี หรือมีฐานะยากจน ... “สถานีทีวีเด็ก” จึงจัดให้มีช่องทางการเผยแพร่รายการเป็น 2 ช่องทางหลัก คือ
1. สถานีที่ไม่หวังผลกำไร (Non-commercial Channels) เช่น
สถานีทีวีไทย การออก event หรือจัดจำหน่ายแผ่นตามโรงเรียน
2. สถานีเชิงพาณิชย์ (Commercial Channels)
- การวางขายแผ่น cd, dvd ณ ร้าน B2S
- สถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี 3, 5, 7, 9, 11, และเคเบิ้ลต่างๆ
1. สถานีที่ไม่หวังผลกำไร (Non-commercial Channels) เช่น
สถานีทีวีไทย การออก event หรือจัดจำหน่ายแผ่นตามโรงเรียน
2. สถานีเชิงพาณิชย์ (Commercial Channels)
- การวางขายแผ่น cd, dvd ณ ร้าน B2S
- สถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี 3, 5, 7, 9, 11, และเคเบิ้ลต่างๆ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น