Baby first TV เรื่องราวดีจากน้องจุง...
Baby FirstTV http://www.babyfirsttv.com/index_plst1.htm
น่าขอทุนไปดูงานจัง.....
วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 19, 2553 | | 1 Comments
“มาทำความรู้จักกับการเขียน Story Board”
สรุปบทเรียนการอบรมบ่มเพาะคนทำนิทานทีวี
หัดวาด Story Board กับ อ. ทวีลาภ เอกธรรมกิจ
ตอนที่ 1 “มาทำความรู้จักกับการเขียน Story Board”
วันที่ 12 ธันวาคม 2552 ณ สตูดิโอเห็ดหรรษา
โดย... เมษา แจ่มฟ้า
“มาทำความรู้จักกับการเขียน Story Board”
Story Board คือ เครื่องมือที่ช่วยให้ผู้เขียนบท ผู้กำกับ ตากล้อง ตลอดจนนักแสดง ได้เข้าใจในบทมากยิ่งขึ้น และเห็นภาพร่วมกัน และเข้าใจตรงกัน
การวาด Story Board นั้นไม่จำเป็นต้องวาดรูปเก่งเสมอไปเพียงแค่วาดออกมาให้ดูเข้าใจ รู้เรื่องก็ใช้ได้แล้ว
ในการวาด Story Board ไม่นิยมเขียนข้อความลงไปในกรอบสี่เหลี่ยมเพราะจะรบกวนสายตาและมุมมองภาพ แต่อาจจะเขียนอธิบายกำกับมากขึ้นเพื่อความเข้าใจ โดยส่วนอธิบายมักอยู่ข้างล่างของภาพ
ลักษณะของ Story Board จะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม เรียงกันตามเรื่องราว(บท) แทนกรอบของจอโทรทัศน์จะบอกเล่าเรื่องราวด้วยภาพ ซึ่งมีทั้งมุมมอง และขนาดภาพที่แตกต่างกัน
มุมภาพที่ใช้แทนสายตาแบ่งออกเป็นคร่าวๆดังนี้
Eye Level มุมระดับสายตา ความสูงของกล้อง จะอยู่ในระดับสายตา ผู้ชมจะเป็นภาพในระดับปกติเท่ากับความสูงของคนทั่วๆไป
Bird’s Eye View เป็นมุมสูงเหมือนสายตาของนกที่มองลงมา กล้องจะอยู่สูงกว่าวัตถุที่ต้องการถ่าย แล้วกดมุมกล้องลงมา ผู้ชมจะเห็นภาพในมุมสูงเหมือนอยู่ข้างบน
Ant’s Eye View เป็นมุมสายตาของมด กล้องจะอยู่ต่ำมากเหนือระดับพื้นดิน กล้องจะอยู่ต่ำกว่าวัตถุแล้วถ่ายเสยวัตถุขึ้นไป ผู้ชมจะเห็นภาพในมุมต่ำเหมือนแหงนหน้ามองดูสิ่งที่อยู่สูงกว่า
ขนาดของภาพที่ใช้เล่าเรื่องราว ยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับมาตราส่วนของคนดังนี้
Extreme Long Shot ( ELS) ภาพระยะไกลสุด จะเห็นคนทั้งตัวและพื้นที่ๆยืนอยู่ ภาพของคนที่ได้จะเต็มตัวแต่มีขนาดเล็ก ถ้าเป็นทิวทัศน์จะเป็นทิวทัศน์ในระยะไกล เห็นภาพรวมของสิ่งที่ต้องการโชว์ทั้งหมด ใช้เพื่อให้เห้นภาพรวมของวัตถุ+บรรยากาศโดยรอบ
Long Shot ( LS) ภาพระยะไกล ถ้าเป็นคนจะเห็นเป็นคนที่เต็มตัว หรืออาจจะเรียกว่า Full Shot ก็ได้ ใช้เพื่อให้เห็นภาพโดยรวมของวัตถุทั้งหมด
Medium Shot ( MS ) ภาพระยะปานกลาง เห็นภาพตั้งแต่ต้นขาขึ้นไปจรดศีรษะ
Medium Close Up (MCU) ภาพระยะใกล้ปานกลาง เห็นคนในระดับอกขึ้นไป
Close Up ภาพระยะใกล้ (CU) เห็นภาพในระยะใกล้ จะเห็นคนแค่ใบหน้า
Extreme Close Up (ECU) ภาพระยะใกล้มาก เห็นใบหน้าแค่บางส่วน หรือเจาะเฉพาะอวัยวะ เช่นเฉพาะดวงตา จะเห็นรายละเอียดชัดเจนมาก ใช้เพื่อเน้นให้เห็นรายละเอียดของวัตถุหรือเน้นตัววัตถุอย่างมาก
ในการวาด story Board นี้ผู้วาดจำเป็นต้องเรียงลำดับเรื่องราวที่ต้องการแสดงให้เห็นให้ดีเสียก่อนว่าผู้ชมจะเห็นอะไรก่อนหลัง เห็นอะไรบ้างเน้นอะไรบ้างแล้วเขียนออกมาเป็นShot ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้การเล่าเรื่องนั้นสมบูรณ์ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะสื่อ ทั้งนี้ยังต้องเลือกใช้มุมมองของภาพ ขนาดของภาพให้เหมาะสมและสื่อความหมาย รวมไปถึงทักษะการเปิดเรื่อง ดำเนินเรื่อง และปิดเรื่องให้น่าสนใจ อีกด้วย
:)
วันพุธ, ธันวาคม 16, 2552 | | 2 Comments
หัดวาด Storyboard กับ อ.ทวีลาภ เอกธรรมกิจ
ในเรื่องการหัดวาดStoryBoardโดยอาจารย์ทวีลาภ เอกธรรมกิจ
วันจันทร์, ธันวาคม 14, 2552 | | 0 Comments
ข้อเสนอในการเปิดพิ้นที่รายการโทรทัศน์สร้างสรรค์เพื่อเด็กปฐมวัย
ประการที่ 1 (Building new prime- time) พัฒนาช่องทางการออกอากาศรายเด็กในฟรีทีวีเดิมในช่วงเวลา 16.00 – 20.00 น. ให้เป็น Prime time ของเด็กจริงๆ เพิ่มมากขึ้นจำนวนรายการและครอบคลุมของทุกความหลากในทุกด้าน เช่น กลุ่มอายุของเด็ก ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ความหลากหลายของกลุ่มผู้ผลิต เป็นต้น
ข้อเสนอแนะเชิงวิธีการ
1. สำหรับกองทุนที่จะเกิดขึ้นควรนำมาสนับสนุนในเรื่องของค่าเวลาการออกอากาศในช่องฟรีทีวีเพื่อให้ ทางสถานีสามารถลดต้นทุนค่าเวลาได้เหมาะสม และเพื่อให้ผู้ผลิตหาผู้สนับสนุนได้ไม่ยากจนเกินไป
2. Matching Fund รายการโทรทัศน์ สำหรับเด็กกับองค์กรธุรกิจและรัฐวิสาหกิจ สนับสนุนให้มีการทำ CSR ในรูปแบบของรายการเด็กเพิ่มมากยิ่งขึ้น
3. ใช้กลไกฏหมายสนับสนุนการผลิตรายการโทรทัศน์สำหรับกลุ่มเด็ก เช่น การลดหย่อนภาษี เป็นต้น
ประการที่ 2 พัฒนาคุณภาพเนื้อหาของรายการให้เหมาะสมกับระดับอายุเด็กแต่ละระดับ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กปฐมวัย รายการเด็กมีการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนได้น้อยอยู่แล้ว ยังมีกฎหมายเรื่องโฆษณาขนม เนื่องจากสินค้าอื่นๆก็ไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายในรายการ จึงมีการปรับปรุงให้เป็น “ ท” คือ สร้างรายการที่คนตัดสินใจซื้อสินค้าดูแล้วถูกใจด้วย แต่เนื้อหาหลายประการอาจจะไม่ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กเล็ก
ข้อเสนอแนะเชิงวิธีการ
1. พัฒนาองค์กรเครือข่ายการทำงานร่วมกันของผู้ผลิตและกลุ่มผู้บริโภค (พ่อแม่ คุณครู) และผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆที่มีความปรารถนาดีต่อเด็ก อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง เพื่อร่วมสร้างแนวทางการผลิตรายการที่ตรงความต้องการและเนื้อหาทันสถานการณ์ปัจจุบันของสังคม
ประการที่ 3 ส่งเสริมผู้ผลิตรายการโทรทัศน์รุ่นใหม่ให้ตระหนักในความสำคัญของ “สื่อ” ต่อการพัฒนาเด็ก และพัฒนาศักยภาพของผู้ที่สนใจทำงานด้านการผลิตรายการสำหรับเด็ก
ข้อเสนอแนะเชิงวิธีการ
1. การร่วมพัฒนามาตรฐานในการผลิตรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กโดยกลุ่มผู้ผลิตร่วมกับสหวิชาชีพต่างๆ เช่น รายการเด็กต้องผ่านการเทสต์กับเด็กกลุ่มเป้าหมายก่อนออกอากาศ เป็นต้น
2. ทำข้อมูลพื้นฐานด้านผลิตรายการโทรทัศน์เด็กและ ข้อมูลของกลุ่มคนที่ทำงานด้านเด็ก ผู้ผลิต และผู้สนับสนุนเพื่อให้คนที่สนใจเข้ามาค้นคว้าได้
3. จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ผลิตรายใหญ่และรายย่อย
สำหรับบทบาทการดำเนินงานของภาคีทีวีเด็กปฐมวัย
1. ระดมทรัพยากรทุนในด้านต่างๆ ทั้งบุคลากร ทุนทรัพย์ องค์ความรู้จากหลากหลายสาขาที่ต้องการทำรายการโทรทัศนำหรับเด็กเพื่อทำฐานข้อมูลความสามารถด้านต่างๆของภาคี เพื่อพัฒนาการทำงานร่วมกันต่อไป
2. จัดพัฒนาองค์ความรู้ด้านการผลิตรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กโดยผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ในรูปแบบของการอบรม
3. พัฒนาต้นแบบรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กและทดลองให้เด็กๆกลุ่มเป้าหมายรับชมเพื่อศึกษา โดยอยู่ขั้นตอนพัฒนามาตรฐานของการผลิตรายการเด็กปฐมวัยในกลุ่มสมาชิกภาคีด้วยกัน โดยรายละเอียดมีดังนี้ คือ
- Filed Test การทดลองนำเสนอรายการต่อเด็กกลุ่มเป้าหมาย ว่ามีความน่าสนใจเข้าถึงเด็กตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด หรือไม่
- Safety Test การนำต้นแบบรายการเพื่อให้นักวิชาการ (ตามแต่ละเนื้อหารายการ) เป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง
- Product test นำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิติเคราะห์ในเรื่องของการออกแบบรายการ ความน่าสนใจ
- Costumer ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดประเมินมูลค่าทางการตลาดของแต่ละรายการภาคีทำขึ้น รวมทั้งกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครอง
วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 22, 2552 | | 0 Comments
สถานัทีวีของเด็กกับนานาเหตุผล...
หากวันนี้....เมืองไทยจะมีสถานีทีวีสำหรับเด็กโดยเฉพาะ...จะดีอย่างไร?
ดีกับใคร?
ทำไมต้องมี?
แล้วจะมีเมื่อไร?คิดออกช่วย comment มาทีนะคะ
วันพุธ, พฤศจิกายน 18, 2552 | | 0 Comments
All I Really Need To Know I Learned In Kindergarten
ไม่รู้มีใครเคยผ่านๆ หนังสือเล่มนี้บ้างหรือเปล่า?
หนังสือเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่มองย้อนไปสู่วัยเด็กว่า เอ... จริงๆ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ที่ห่วยๆ นี่ ที่จริงคุณครูอนุบาลก็สอนกันมาแล้วนี่นา (ทำไมมันยังห่วยๆ อยู่ได้น้าาา)
ตอนเด็กๆ เราถูกสอนให้รู้จักนี่... พวกนี้เลย:
- แบ่งปันกัน
(Share everything.) - เล่นกันอย่างแฟร์ๆ ไม่เอาเปรียบคนอื่นเขา
(Play fair.) - อย่าทุบตีคนอื่นเขา
(Don't hit people.) - เวลาใช้อะไรแล้ว รู้จักเก็บเข้าที่เดิมด้วย
(Put things back where you found them.) - เวลาทำไรสกปรกแล้ว... ติดตามผลงานด้วยจ้าาา
(Clean up your own mess.) - ไม่ไปอุบอิ๊บของคนอื่นมาเป็นของตัว
(Don't take things that aren't yours.) - พูดคำว่า ขอโทษ เวลาทำให้คนอื่น "เจ็บ"
(Say you're sorry when you hurt somebody.) - ล้างมือก่อนกินข้าว
(Wash your hands before you eat.) - เวลาเข้าส้วมแล้ว กดน้ำด้วย
(Flush.) - ใช้ชีวิตให้ลงตัวในแต่ละวัน เรียนบ้าง คิดบ้าง วาดรูปบ้าง ระบายสีบ้าง ร้องเพลงบ้าง เต้นบ้าง เล่นบ้าง และทำงานบ้าง
(Live a balanced life - learn some and think some and draw and paint and sing and dance and play and work every day some.) - งีบตอนบ่าย
(Take a nap every afternoon.) - เวลาออกไปข้างนอก ระวังรถ จับมือกัน และอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม
(When you go out into the world, watch out for traffic, hold hands, and stick together.) - ยอมรับความมหัศจรรย์
(Be aware of wonder.) เหมือนกับเราเพาะเมล็ดแล้ว ทำไมต้นมันถึงชี้ขึ้นฟ้า แล้วก็รากทิ่มลงดิน ซึ่งก็ไม่มีใครให้คำตอบกับสิ่งเหล่านี้ได้ - ปลาทอง หนู (สัตว์เลี้ยง) ตายได้ เช่นเดียวกับเรา
(Goldfish and hamsters and white mice and even the little seed in the Styrofoam cup - they all die. So do we.) - คำแรกที่เราเรียนรู้ และเป็นคำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือคำว่า "ดู"
(And then remember the Dick-and-Jane books and the first word you learned - the biggest word of all - LOOK.)
อ่อ...ข้อสุดท้ายที่เขาพูดถึงหนังสือ Dick and Janeนี่ อันนี้เป็น series ของตำราสำหรับเด็กที่ใช้สอนเด็กอเมริกันตั้งแต่ปี 1930s - 1970s ประมาณ มานี มานะ ปิติ ชูใจของเรา แต่เขาใช้สอนเด็กตั้งแต่ Grade 1-8
เอ... หนังสือมานี มานะ ปิติ ชูใจ นี่มันมีผลกับการเลือกเรียนคณะ หรือทำอาชีพมั้ยน้อ เห็นเดี๋ยวนี้เวลาเขาจะเรียนคณะอะไร จะทำงานอะไรให้นึกถึง มานี (Money) ซะเยอะ มานะ ปิติ ชูใจ ไม่ค่อยเหลือแระ
อ้าว... ชวนคุยเรื่องสิ่งที่ฉันต้องรู้ ฉันเรียนตอนอยู่อนุบาลดีๆ ไหงมาลง มานี ไม่มีมานะ ไม่ค่อยปิติ ไม่มีอะไรชูใจได้น้อ...
วันอังคาร, พฤศจิกายน 17, 2552 | | 0 Comments
Kid TV Network คือใคร?
การรวมพลคนปรารถนาดีที่จะทำรายการทีวีเพื่อเด็กปฐมวัย
ความเป็นมา
โครงการอบรม “บทเพลงสถานีสร้างสรรค์รายการเพื่อเด็ก”ณ สตูดิโอเห็ดหรรษา มีคุณภัทรจารีย์ อัยศิริ หรือ “น้านิต แห่งสโมสรผึ้งน้อย” เจ้าของสถาบันเพื่อการเรียนรู้เห็ดหรรษา เป็นผู้ดำเนินการอบรม โดยได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจาก สสส. ระหว่างเดือนมีนาคม - มิถุนายน ๒๕๕๒
แม้ โครงการอบรมสิ้นสุดลง แต่ความสัมพันธ์ของกลุ่มต่างๆ ยังคงต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดไอเดียของกลุ่มผู้เข้าอบรมขึ้นเป็นรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก มี “น้านิต” เป็นแกนนำ และสตูดิโอเห็ดหรรษาเป็นศูนย์กลางการพบปะสังสรรค์
ภาคีทีวีเด็ก กับวิสัยทัศน์ & พันธกิจ : สร้างสรรค์ “สถานีทีวีเด็ก” ... เติมส่วนที่ขาดหายให้สังคมไทย
วิสัยทัศน์ - Vision
พันธกิจ - Missions
2. อบรมและพัฒนาผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ที่สามารถผลิตรายการคุณภาพสำหรับเด็ก
3. รวบรวมสาขาวิชาชีพและวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก
4. ให้เด็กไทยมีโอกาสได้ชมรายการโทรทัศน์คุณภาพสำหรับเด็กอย่างเท่าเทียมกัน
สถานีทีวีเด็ก = ?
1. สถานีที่ไม่หวังผลกำไร (Non-commercial Channels) เช่น
สถานีทีวีไทย การออก event หรือจัดจำหน่ายแผ่นตามโรงเรียน
2. สถานีเชิงพาณิชย์ (Commercial Channels)
- การวางขายแผ่น cd, dvd ณ ร้าน B2S
- สถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี 3, 5, 7, 9, 11, และเคเบิ้ลต่างๆ